เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2552 ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานบุญที่วัดป่าหนองหิน ตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เห็นว่ามีเนื้อหาสาระน่าสนใจนำมาบอกกล่าวท่านผู้อ่าน ดังนี้
เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ถวายพระสงฆ์ที่ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และพระพุทธศาสนา
ในการนี้พระอธิการชัชวาล จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดป่าหนองหินได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูโชติปัญญาคุณ
ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ คณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันจัดให้มีการแสดงพระธรรมเทศนา โดยนิมนต์ พระเดชพระคุณ พระธรรมดิลก เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ เจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) จังหวัดขอนแก่น เป็นองค์แสดงในวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2552
ครั้นถึงเช้าวันนั้น ศิษยานุศิษย์และญาติโยมทยอยกันมา ข้าวหม้อแกงหม้อ ขนมนมเนยพร้อมสรรพ อันเป็นประเพณีดีงามของพี่น้องชาวอีสาน ไม่ช้าก็แน่นลานวัดอันร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย อุบาสกอุบาสิการาวสิบคนวุ่นวายอยู่กับการตระเตรียมอาหารคาวหวานเพื่อเลี้ยงพระและเลี้ยงผู้มาร่วมงานบุญโดยทั่วกัน
ไม่ช้าเสียงเจริญชัยมงคลคาถาก็ดังผ่านเครื่องขยายเสียงออกมา!
หลังจากนั้น พระเดชพระคุณ พระธรรมดิลก ก็แสดงธรรมเทศนาอันเป็นพุทธวัจนะด้วยน้ำเสียงกังวานน่าเลื่อมใส ใช้ภาษาเรียบง่ายให้ทายกทายิกาทั้งปวงได้เข้าใจโดยทั่วถึงกัน จนกระทั่งถึงเวลาประเคนภัตตาหารให้พระภิกษุ...โฆษกประกาศว่าต่อไปนี้ขอให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับหมอลำชื่อดังจากขอนแก่น นั่นคือคณะ "ซูเปอร์ยาว"
คณะนี้มีชื่อเสียงจากการออกทีวีที่กรุงเทพฯ บ่อยครั้ง เคยร่วมกับละครทีวีบางเรื่องจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายในภาคอีสานเป็นวงกว้าง
หัวหน้าคณะเป็นหนุ่มใหญ่ หน้าตายิ้มแย้มแจ่ม ใสอารมณ์ดี กับหมอลำหนุ่มน้อยหล่อเหลาและหมอแคนรวมสามชีวิต ก้าวเข้ามายืนเด่นอยู่กลางศาลา แล้วเสียงแคนแล่นแตด้วยท่วงทำนองสนุกสนานรื่นเริงก็ดังขึ้นโดยพลัน
ญาติโยมเริ่มทยอยกันเข้ามานั่งแทบเต็มศาลา แหงนหน้าจ้องมองวงหมอลำด้วยความชื่นชม หัวหน้าคณะบอกกล่าวว่า...ฟังหมอลำหนุ่มก่อนแล้วค่อยฟังหมอลำเฒ่า!
หมอลำหนุ่มเริ่มต้นเป็นคนแรกด้วยลำทางล่องเรื่อง "การะเกด" อันเป็นตำนานพื้นบ้าน คล้ายๆ กับท้าวผาแดงกับนางไอ่, ท้าวขูลูกับนางอั้ว...สุ้มเสียงหวานเสนาะเพราะพริ้งปานจะสะกดให้อุบาสิกาเงียบกริบทั้งศาลา
คุณน้าคุณป้าผู้เป็นแฟนหมอลำ ควักใบละ 20 บาทเอายัดใส่มือให้หนุ่มน้อยหน้าใสแทบไม่หยุดหย่อน
ต่อจากนั้นก็ถึงรอบของซูเปอร์ยาว-หรือหมอลำรุ่นใหญ่ที่แพรวพราวด้วยลูกเล่นและอารมณ์ขัน จนอุบาสกอุบาสิกาหัวเราะกันแทบงอหาย...มีการบอกกล่าวว่าจะร้องกลอนลีแล้วตามด้วยกลอนเลา...ความชำนาญเวทีนั้นถือว่าจัดจ้านหาตัวจับยากเต็มที แม้แต่เจ้าตัวยังอดหัวเราะไม่ได้ ก่อนจะขอโทษขอโพยที่ไม่อาจจะว่ากลอนลำได้โจ๋งครึ่มเพราะเป็นในวัดวา เดี๋ยวจะไม่เหมาะไม่ควร
พอจะจดจำได้กลอนเลากระท่อนกระแท่นมาเล่าสู่กันฟังนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี
"วันหนึ่งยายเต่าแกตื่นแต่เช้า แกปวดท้องเบาเลยลงบันไดจะไปเบาเลยโดนงูเห่ามันตอดเอา..." เท่านี้ก็แทบจะขำกลิ้งไปตามๆ กัน ยิ่งร้องเพลง "มนต์รักลูกทุ่ง" แปลงเนื้อในแบบหมอลำ ขนาดหมอแคนยังแทบสำลักก็แล้วกัน
ก่อนจบขอเล่าเรื่องผีที่ตำบลโคกก่อเสียหน่อย...มีสามีภรรยาความรู้ระดับด๊อกเตอร์มาเช่าบ้านอยู่ที่นั่น ตอนดึกๆ ภรรยาจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้เป็นประจำจนขอให้สามีย้ายบ้านจนสำเร็จ แต่ก่อนจะย้ายสามีก็ได้ยินเสียงร้องไห้ นึกว่าเป็นเสียงภรรยาแต่ได้รับคำตอบว่า...ฉันไม่ได้ร้อง ผีบ้านนี้ร้องไห้ต่างหาก!
คืนนั้นเอง เธอก็ฝันเห็นผู้หญิงมานั่งร้องไห้ที่ปลายเตียง ตัดพ้อต่อว่าที่ย้ายบ้านหนี คนที่มาเช่าอยู่ต่อไปได้ยินเสียงเธอร้องไห้คงจะหาหมอผีมาขับไล่ไสส่งเธออย่างแน่นอน
หลังจากนั้นก็มีคนมาเช่าอยู่แล้วย้ายออกไป...ทุกวันนี้ยังติดป้าย "บ้านว่างให้เช่า" อยู่เลยครับ!
ขนหัวลุก-ใบหนาด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น