วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

โดนดีวันเข้าพรรษา

แต่ก่อนเรื่องผีเป็นเรื่องที่ผมเชื่อ 50-50 ไม่กลัว แต่ไม่อยากเจอ เหุตการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงปี2550 ก่อนหน้านี้ผมเคยพักอยู่กับเพื่อนผู้หญิงหลังพาต้าปิ่นเกล้า ผมอยู่กับเพื่อนเมื่อปี 2546 จนมามีแฟนก็ย้ายไปอยู่กับแฟนที่หนองแขม



เลยไม่ค่อยได้ไปนอนห้องเพื่อนเท่าไหร่ จนเลิกกับแฟนเมื่อปี 2549 ผมก็ไปนอนห้องเพื่อนบ้าง บางครั้งไม่อยากกลับห้องตัวเองที่หนองแขม ก็นอนกับเพื่อนที่ปิ่นเกล้า จนมาเจอคนรู้ใจคนใหม่(ไม่ใช่แฟนนะคับ)ผมก็พามาเที่ยว



มานอนเล่นที่ห้องเพื่อน แต่ไม่บ่อย เพราะถ้าเพื่อนรู้คงบ่นน่าดู แต่ดีนะคับที่เพื่อนผมทำงานห้าง ผมเลยพาคนรู้ใจมาเที่ยว มานอน ช่วงบ่ายๆได้ ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเข้าพรรษา ซึ่งจริงๆวันนี้คนเราส่วนใหญ่ต้องไปทำบุญ รักษาศีลกัน



แต่ผมกับแฟนคิดพิเรนทำเรื่องที่คนส่วนน้อยทำกัน เสร็จแล้วช่วงเย็นเค้าก็กลับ ส่วนผมก็รอเพื่อนกลับจากที่ทำงานเพื่อกินข้าวกัน กินข้าวเสร็จก็นั่งๆ นอนๆ ดูทีวีกัน แต่คืนนี้เพื่อนผมอยากนอนข้างล่าง ในห้องเพื่อนผมเตียงนอนจะเป็นเตียงเดี่ยว



ซึ่งเคยนอนกันบนเตียง 2 คน แล้วมันไม่ไหว เพราะอึดอัด ผมก็เลยนอนข้างล่างโดยเอาที่นอนปิคนิคมาปูนอน แต่คืนนี้เพื่อนผมนอนข้างล่าง ผมนอนบนเตียงก็ดูทีวี นอนๆสักพักก็เริ่มหลับ แต่เพื่อนยังนั่งดูอยู่ หลับได้สักพักก็เหมือนมีมือมาดึงที่เส้นผมจากหัวเตียง



ซึ่งผมก็รู้ว่าสงสัยวันนี้ต้องเจอดีแน่ แต่ความคิดมันดันคิดไม่ดี ดันนึกออกไปว่าแน่จริงมาทำให้ผมมีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ เท่านั้นแหละคับมาเลยคับ เป็นเงา 2 เงา นุ่งโจงกระเบนสีแดง ในตาแดงกล่ำเป็นสีแดง มาจากปลายเตียงที่ผมนอนอยู่



ซึ่งตอนนั้นผมลืมตาก็เห็นเพื่อนนั่งดูทีวี ผมพยายามขยับตัวแต่ก็ขยับไม่ได้ แขนขาชา หูได้ยินแต่เสียงวิ้งๆๆ เพิ่งจะรู้ว่าการโดนผีอำเป็นแบบนี้นี่เอง ผมมองเห็นเพื่อนตลอดว่าทำอะไร พยายามเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือ



แต่ก็ไม่มีเสียงออกจากปากผมเลย ผมพยายามพนมมือแล้วกล่าวขอโทษ พยายามท่องนโมๆๆๆ ท่องผิดๆถูกๆ เพราะกลัวมาก ร่างนั้นก็ไม่ยอมไป แล้วเริ่มรวมเป็นร่างเดียวขนาดใหญ่ขึ้นๆ แล้วจะล้มทับลงบนตัวผมเท่านั้นแหละคับ ผมแหกปากร้องลั่นห้องเสียงดังมากคับ



เพราะตอนนั้นกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว พอร้องได้ร่างกายผมก็ขยับผมรีบลุกขึ้นแล้วตะโกนว่ายผีหลอกๆๆๆๆ จะวิ่งหนีออกนอกห้อง พอดีกับที่เพื่อนผมเข้ามาจับแล้วเขย่าตัวถามว่าเป็นอะไร ผมก็บอกไปว่าโดนผีหลอก แล้วก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง



ถ้าเพื่อนไม่ลุกมาเขย่าตัวผม ผมคงเหยียบเพื่อนทำให้เพื่อนบาดเจ็บไปแล้ว ดีนะคับที่เพื่อนลุกมาทัน ตอนแรกเพื่อนคิดว่าผมนอนละเมอ เพราะเห็นดิ้นไปดิ้นมา ซึ่งปกติผมจะเป็นคนนอนกรนแล้วก็นอนละเมอ บางครั้งก็ลุกขึ้นมานั่งพูดคนเดียว



จนเพื่อนผมชินคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่คืนนี้มันไม่ใช่ เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่าก่อนนี้ ตึกที่เราอยู่เคยเป็นคลีนิคทำแท้งมาก่อน แล้วต่อมาโดนจับก็เลยดัดแปลงเป็นห้องเช่า ซึ่งข้างล่างก็เคยเป็นร้านขายทองมาก่อน แต่ก็ขายไม่ดีเลยปิดกิจการ



เป็นร้านซักรีดก็ไม่รอดเจ๊ง แล้วก็เปิดเป็นร้านของฝากก็ไปไม่รอด ปัจจุบันเปิดเป็น 7-11 พนักงานก็ทะเลาะกันจนต้องเปลี่ยนพนักงานเป็นว่าเล่น หรือนี่อาจจเป็นที่ที่ไม่ดี เพราะชั้นดาดฟ้าจะมีศาลภูมิตั้งอยู่ ทุกวันพระทางเจ้าของตึกก็จะขึ้นไปไหว้



ถึงว่าก่อนหน้านี้ผมเจอเป็นเสียง ยังไม่เคยเจอจังๆแบบนี้ อย่างเวลาที่ผมเลิกงานก็จะมานอนเล่นห้องเพื่อนช่วงบ่ายๆ เวลานอนตะแครงหันหลังเข้าข้างฝาจะพลิกตัวไม่ค่อยได้เหมือนมีใครนอนชิดกำแพง แต่พอรวบรวมกำลังพลิกนอนหงายก็นอนได้



หรือบางครั้งนอนๆอยู่ได้ยินเสียงนกร้อง พอลืมตาก็เห็นเป็นเงาเหมือนนกบินอยู่ ซึ่งจริงๆในห้องเป็นลูกกรงแล้วนกจะเข้ามาบินในห้องได้ยังไง หลังจากวันนั้นที่ผมเจอดี ก็เหมือนว่าจิตผมเปิดเริ่มเจอเรื่องแปลกๆ ซึ่งถ้าเลือกได้ผมไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้เลยคับ



เพราะมันน่ากลัวเกินไปสำหรับผม




Credit : http://www.shockfmclub.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น