วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

ผีวัดสะพาน

" ยอดยิ่ง"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากป่าช้าผีดุ

สมัยหนุ่มผมอยู่มักกะสัน หลังวัดทัศนารุญสุนทริการาม หรือที่ชาวบ้านร้านช่องทั่วๆ ไปเรียกว่า "วัดสะพาน" นั่นเอง

วัดนี้เคยได้ชื่อว่าผีดุนักหนา ขึ้นชื่อลือชาไปถึงประตูน้ำ สนามเป้ายันทุ่งพญาไท...ถนนวิภาวดีฯ หรือชื่อเดิมคือซูเปอร์ไฮเวย์เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ตกค่ำก็แทบจะไม่มีรถแล่นให้เห็นเพราะยังเปล่าเปลี่ยวเต็มที ใครอยู่ที่นั่นก็ถือว่าอยู่ชานเมืองแล้ว

นอกจากขึ้นชื่อลือชาว่าผีดุเพราะเป็นวัดเก่าแก่ บ้านเรือนยังไม่คับคั่งเหมือนยุคต่อมา ยังมีคนเล่าว่าเคยเห็นเปรตที่วัดสะพานอีกต่างหาก

จากหมู่บ้านริมถนนราชปรารภเข้าไปถึงป่าช้า จะมองเห็นหลุม ศพระเกะระกะเรียงรายกันหลายสิบหลุม มีป้ายเขียนชื่อ-สกุลเอาไว้ง่ายๆ ต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นร่มครึ้มบรรยากาศแสนจะเยือกเย็นน่าวังเวงใจแค่ไหนก็คงพอ จะนึกออกนะครับ

มีคนเห็นเปรตเดินโย่งเย่งมาจากป่าช้านั่นแหละ!

เขาว่าได้ยินเสียงหมาหอนเยือกเย็นน่าขนลุก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันต้องเห็นผีแน่ๆ ไม่งั้นจะโก่งคอหอนไปหาสวรรค์วิมานอะไร...ขณะที่เดินจ้ำอ้าวจะกลับบ้านตอน ดึก ก็ต้องชะงักกึกด้วยความสงสัยอะไรบางอย่าง...

"ก-รี๊-ดดดด ....ก-รี๊-ดดด..." เสียงแหลมเล็กบาดหู ฟังเผินๆ เหมือนใครเป่านกหวีดมาจากที่สูงๆ เลยเหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นอะไร จนกระทั่งเสียงบาดใจนั่นดังขึ้นอีก พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็แทบจะช็อกตายในบัดดล!

อมนุษย์รูปร่างสูงลิ่วเหมือนต้นตาล กำลังเดินโย่งเย่งเข้ามาหา มือทั้งสองข้างใหญ่โตเหมือนใบลาน ร่างกายเปล่าเปลือยดำเกรียม แขนขาลีบเล็กมีแต่หนังหุ้มกระดูก ตาแดงราวแสงไฟ...เห็นปากเล็กแหลมเท่ารูเข็มกำลังกรีดร้องเสียงหวีดแหลม บาดลึกลงไปถึงหัวใจ

อสุรกายผู้เคยก่อกรรมทำเข็ญกับบุพการี ทุบตีและด่าทอพ่อแม่เป็นบาปเวรสาหัส...เมื่อสิ้นใจจึงต้องเกิดมาเป็นเปรตชด ใช้เวรกรรม ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสเนิ่นนานจนกว่าจะสิ้นเวร

ผมกับไอ้กล่อมเพื่อนเกลอก็เจอดีเข้าเต็มรักเหมือนกันครับ

ถึงแม้จะไม่เจอเปรตมาส่งเสียงกรี๊ดๆ หวีดหวิวขอส่วนบุญจนอกสั่นขวัญแขวน แต่ผีวัดสะพานก็เล่นงานเราจนไม่กล้าเที่ยวเตร่กลางค่ำกลางคืนไปเนิ่นนานที เดียวเชียว...

คืนนั้นเดือนเต็มดวงทอแสงสว่างนวล อย่างที่เขาเรียกว่า "สว่างจนแทบจะจับมดได้" นั่นแหละครับ ผมกับไอ้กล่อมบ้านอยู่ใกล้ๆ กันแถวท้ายป่าช้า...แหม! อย่าว่าแต่พวกผมเลย แม้แต่คนที่อยู่ย่านเจริญใจกลางเมืองแท้ๆ ยังอยู่บ้านติดกับป่าช้าวัดดอนนี่นา ปัดโธ่!

หลังจากตะลอนๆ ไปกับเพื่อนฝูงอีกหลายคน เราก็แยกย้ายกันย่ำต๊อกกลับบ้าน...อากาศในเดือนธันวาคมเย็นยะเยือก แสงจันทร์ส่องสว่าง ทำให้เราเดินเข้าซอยได้อย่างสบายอารมณ์ ไอ้กล่อมถึงกับผิวปากเล่นอย่างครึกครื้น...

ทันใดนั้น เสียงหมาหอนก็ดังแว่วมาตามสายลม! ร่างเตี้ยล่ำของไอ้กล่อมชะงักกึกร้องด่าว่าไม่รู้จะหอนหาหอกอะไร? หรือว่าจะเห็นผี...

เสียงของมันขาดหายเมื่อเสียงหอนเปลี่ยนเป็นเสียงครางงื้ดง้าด เรามองสบตากันอย่างหวาดระแวง เอื้อมมือไปตบด้ามมีดที่สะเอว...ถ้ามีใครแปลกหน้าที่ปองร้ายเราไม่รู้ตัว หรือว่าอาศัยทีเผลอก็ต้องเจอกันหน่อยละ...

แต่เอ๊ะ! เบื้องหน้าเราก็คือหลุมศพระเกะระกะกับฮวงซุ้ยขาวโพลนอยู่ในแสงจันทร์ เสียงหมาหอนก็เงียบหาย สรรพสิ่งดูสงบนิ่งเหมือนโลกนี้กลายเป็นโลกร้างโดยสิ้นเชิง!

"ไอ้ยะๆๆ ยิ่ง...เอ็งๆๆ เห็นอะๆๆ ไรมะๆๆ มั้ย...นะๆๆ โน่น..."

จู่ๆ ไอ้กล่อมก็กลายเป็นคนติดอ่างไปดื้อๆ ผมหันไปมองก็เห็นมันยืนนิ่ง อ้าปากค้าง นัยน์ตาลืมโพลง จ้องเขม็งไปที่อะไรบางอย่างเหมือนถูกสะกด ทำให้ผมมองตามสายตาของมันไปอย่างงุนงง... แล้วผมก็ได้เห็น...

คุณพระช่วย! ผมได้เห็นภาพที่จะไม่มีวันลืมลงเลยจนกว่าสิ้นใจ!

นั่นคือ คนกลุ่มใหญ่กำลังนั่งล้อมวงอยู่บนหลุมศพข้างๆ ฮวงซุ้ย แสงจันทร์ทำให้เห็นร่างดำทะมึนเหมือนตอตะโก แต่นัยน์ตาแดงก่ำปานแสงไฟกำลังจ้องมองมาเขม็ง...ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า ร่างทั้งหมดยืดสูงขึ้นทุกที...สูงขึ้น...สูงขึ้นราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด ท่ามกลางม่านตาอันพร่าพรายเต็มที

"เผ่นโว้ย!" ไอ้กล่อมร้องจ้า ผมกระโจนพรวดนำหน้า แว่วเสียงเพื่อนวิ่งพลางด่าพลาง ล้มลุกคลุกคลานท่ามกลางเสียงหมาเห่าเกรียวกราว...กว่าจะถึงบ้านก็เหน็ด เหนื่อยแทบจะสิ้นใจ...ไอ้กล่อมจับไข้หัวโกร๋น ส่วนผมต้องให้พ่อพาไปรดน้ำมนต์... นึกถึงแล้วขนหัวลุกครับ!


ขอบคุณเรื่องเล่าข่าวสด

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ6 กันยายน 2553 เวลา 21:28

    เป็นผมจำไม่มีลืม น่ากลัวจริงดีนะยังมีเพื่อนวิ่งด้วย ถ้าอยู่คนเดียวคงจะแย่กว่านี้อีก ผมว่า

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ11 กันยายน 2553 เวลา 20:02

    เคยไปเข้าค่ายแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย แต่พออ่านน่ากลังจังเลย ห้องที่ไปนอน
    ก็ผีดุ ครูบอกน่ะไม่รู้จริงป่าว เด็ก ป. 4/2

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ11 กันยายน 2553 เวลา 20:07

    เพื่อนของเราเห็นผีเกาะน่าต่างด้วย ตอนเข้าค่ายอะน่ะ น่ากลัวมากๆ

    ตอบลบ